10-29
ธ.ก.ส.ครบรอบ 59 ปี ลุยปล่อยกู้เกษตรกร 5.5 แสนล้าน กดหนี้เสียต่ำเหลือ 6.2%
2025-10-27
HaiPress
ธ.ก.ส.ครบรอบ 59 ปี ปีนี้ปล่อยกู้เกษตรกรแล้ว 5.5 แสนล้าน กดหนี้เสียต่ำเหลือ 6.2%
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยในโอกาสธนาคารครบรอบ 59 ปี ว่า ธ.ก.ส. เร่งเดินหน้ายกระดับรายได้และความเข้มแข็งภาคการเกษตรในทุกมิติ โดยการดำเนินงานครึ่งปีบัญชี 68 เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.–30 ก.ย.68 ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องและการลงทุน ทั้งในและนอกภาคการเกษตรไปแล้ว 551,502 ล้านบาท มีสินเชื่อรวม 1.68 ล้านล้านบาท ส่วนเงินฝากสะสม 2.03 ล้านล้านบาท สินทรัพย์รวม 2.43 ล้านล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ที่ 6.20% ของสินเชื่อรวม ต่ำกว่าแผนการที่วางไว้ที่ 6.77%
ทั้งนี้ ในปีบัญชีนี้ ธ.ก.ส. ได้ออกผลิตภัณฑ์เงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ รวมถึงบุคลากรของรัฐและเอกชนที่ทำหน้าที่ในการดูแลภาคชนบทและชุมชนในการนำไปต่อยอดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ อาทิ สินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเงินด่วนคนดี และสินเชื่อเงินด่วนกึ่งแสน สำหรับสมาชิก อสม. และ อสส. ซึ่งมีผู้ใช้บริการสินเชื่อแล้วกว่า 636,945 ราย สินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่น สำหรับสมาชิก อสม. และ อสส. ผู้ใช้บริการสินเชื่อแล้วกว่า 277,526 ราย
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธนาคารได้มุ่งเน้นการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้มีประสบการณ์เข้าร่วมพัฒนาภาคการเกษตรทดแทนเกษตรกรที่สูงอายุผ่านโครงการโรงเรียนเกษตรธนากร สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ มุ่งตอบโจทย์ความยั่งยืนด้วยสินเชื่อ บีซีจี และก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่าน แบค คาร์บอน เครดิต ขณะเดียวกันจะเร่งส่งเสริมสินค้าเกษตรติดแกลม ที่มีคุณภาพมาตรฐาน จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ สู่ BAAC Matching แพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะเชื่อมโยงลูกค้า ธ.ก.ส. เกษตรกรรายย่อย วิสาหกิจชุมชนกับผู้บริโภคโดยตรง เพื่อสร้างรายได้และการเติบโตในภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน
ส่วนด้านผลิตภัณฑ์เงินฝาก ธ.ก.ส. ได้เปิดตัวสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดขุนแผนมรกต วงเงิน 1 แสนล้านบาท และขายได้แล้ว 3,580 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกการออมเงิน ได้แก่ เงินฝากทองชมพูนุช และเงินฝากทองนพคุณ ขณะเดียวกัน ได้แก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ธ.ก.ส. ได้พักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่เดือน ต.ค.66 จนถึงระยะที่ 3 วันที่ 1 ต.ค.68–30 ก.ย.69) ซึ่งในระยะที่ 3 มีผู้เข้าร่วมมาตรการแล้ว 1.35 ล้านราย ต้นเงินกู้กว่า 186,935 ล้านบาท
“ธ.ก.ส. ได้มีมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความสามารถในการชำระหนี้ตามแนวทางตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการมีรายได้เพิ่มขึ้นและลดภาระหนี้สินในระยะยาวหลังจบมาตรการ โดยในปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว จำนวน 3.16 แสนราย ในจำนวนนี้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนและสร้างผลผลิตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% ได้เป็นจำนวนกว่า 1.14 แสนราย”



