สนง.สลากฯ ยืนยันเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ไม่กระทบทุน ODOS

2025-09-11     HaiPress

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ไม่กระทบทุน ODOS เผยอนุมัติแล้ว 7 โครงการ วงเงิน 5,300 ล้านบาท

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ไม่มีผลกับโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (ODOS) ที่ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการออกสลากการกุศลพิเศษ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล จำนวน 11 ล้านฉบับ ซึ่งมีเป้าหมายในการระดมเงินภายใน 2 ปีครึ่ง วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวจะใช้ในโครงการตามนโยบายรัฐบาล ทั้งโครงการด้านสังคม สาธารณสุข และการศึกษา ซึ่งรวมถึง ODOS ด้วย

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีการอนุมัติแล้ว 7 โครงการ วงเงินรวม 5,300 ล้านบาท ระยะเวลาในการให้ทุนถึงปี 74 โดยจะเป็นการให้ทุนสำหรับศึกษาทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และจีน เป็นต้น โดยขณะนี้โครงการ ODOS มีการเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านการประชุมเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งยังเป็นช่วงเริ่มต้น และล่าสุดเพิ่งมีการอนุมัติวงเงินอีกราว 3,500 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อดำเนินการในโครงการด้านสาธารณสุขและการศึกษา

“สำนักงานสลากฯ มีแผนชัดเจนเกี่ยวกับการออกสลากการกุศลเรียบร้อยแล้ว อย่างในภาพใหญ่ 1 หมื่นล้านบาทที่ ครม. ได้อนุมัตินั้น 50% ของวงเงิน หรือ 5,000 กว่าล้านบาทจะเป็นของโครงการ ODOS ซึ่งการออกสลากการกุศลก็จะอยู่ที่ 11 ล้านฉับต่องวด และต่องวดจะได้เงินราว 198 ล้านบาท เดือนละ 300 กว่าล้านบาท ตรงนี้จะใช้เวลา 2 ปีครึ่งในการออกสลากการกุศล จึงจะครบตามกรอบวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจากการออกสลากการกุศลก็จะอยู่กับสำนักงานสลากฯ ก่อน และหากโครงการมีความต้องการใช้เงินก็จะมาเบิกจ่ายตามแผนการใช้เงินของแต่ละโครงการนั้น ๆ ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด”

ขณะเดียวกันก็จะมีหน่วยงานที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อติดตามการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ ครม. กำหนดหรือไม่ เช่น ให้ทุนไปศึกษาที่ต่างประเทศ 100 ทุน มีการเบิกจ่ายอย่างไร เรียนไปถึงไหนแล้ว ทั้งหมดมีกระบวนการชัดเจน

สำหรับภาพรวมการออกสลากฯ ในปัจจุบันอยู่ที่ 105 ล้านฉบับ แบ่งเป็น สลากดิจิทัล 27 ล้านฉบับ หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของสลากทั้งหมด และเป็นสลากแบบใบอีก 78 ล้านฉบับ โดยสำนักงานสลากฯ อยากปรับเพิ่มการจำหน่ายสลากแบบดิจิทัลมากขึ้น แต่ขณะนี้ความต้องการของตลาดอาจจะเริ่มถึงจุดอิ่มตัวมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่ามีเพียง 2-3 งวดเท่านั้นที่สามารถจำหน่ายสลากแบบดิจิทัลได้หมด ขณะเดียวกันประชาชนก็ยังซื้อสลากแบบใบอยู่ ดังนั้นก็ต้องพิจารณาในส่วนนี้ให้มีความสมดุล และสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติด้วย

อย่างไรก็ตามในส่วนการขายสลากตัวเลข 3 หลัก (N3) นั้น มีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ให้ผู้ซื้อสามารถซื้อได้สะดวกมากขึ้น และปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย N3 อยู่กว่า 4,000 ราย มีจำนวนสลาก N3 ทั้งสิ้น 6 ล้านใบ ซึ่งขายได้จริง 2 ล้านใบต่องวด และที่ผ่านมาได้มีการประเมินผลของ N3 และรายงานกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่า เอ็นสาม ไม่ได้เข้ามาชิงตลาดของสลาก 6 หลัก (L6) แต่เป็นการเข้ามาปิดช่องโหว่ของ L6 เพราะ N3 สามารถเลือกเลขได้เอง ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ซื้อสลาก

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา