‘บีโอไอ’ ตอบชัดปัญหา NETA ไปต่อหรือพอแค่นี้ จ่อชงเข้าบอร์ดอีวีเดือน ก.ค.

2025-06-17     IDOPRESS

"นฤตม์" เลขาบีโอไอ ในฐานะเลขาบอร์ดอีวี แจงปัญหาเนต้าทำฮับอีวีไทยสะดุดหรือไม่ ย้ำปัญหานี้ เป็นเรื่องระยะสั้น แต่ไม่กระทบภาพรวมระยะยาว ชี้บีโอไอ - สรรพสามิต ไม่นิ่งนอนใจ เคยหารือร่วมกันแล้ว พร้อมเตรียมชงเข้าบอร์ดอีวีเดือนก.ค.นี้

หลังจากเกิดกระแสกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ยี่ห้อเนต้า (NETA) ร้องเรียนซื้อรถมาเกิดหลายปัญหา ทั้งซ่อม รออะไหล่นาน บางรายไม่ได้รับการจดทะเบียน มีคำถามไปยังบริษัทแม่ในไทยก็ไม่มีคำตอบ รวมทั้งกลุ่มผู้แทนจำหน่ายเนต้า จากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ได้ยื่นหนังสือกับหน่วยงานรัฐ เช่น กรมสรรพสามิต เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริง และหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) ซึ่งประเด็นนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อย่างมาก ทางภาคเอกชนจึงต้องการให้ภาครัฐเร่งออกมาแก้ไขสถานการณ์ และเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับคืนมาในการใช้รถอีวี ไม่เช่นนั้นนโยบายการสร้างไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถอีวี อาจสะดุดได้

จากเรื่องนี้ทาง “เดลินิวส์” ได้สอบถามไปยัง นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยถึงปัญหารถเนต้าในขณะนี้จะกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของไทยหรือไม่ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหดตัวของตลาดรถยนต์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หรือปัญหาของเนต้า ที่เกิดจากสถานะการเงินของบริษัทแม่ เป็นปัญหาระยะสั้นที่ต้องจัดการโดยเร่งด่วน แต่จะไม่กระทบกับทิศทางอุตสาหกรรมอีวี ในระยะยาว รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และเดินหน้านโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม EV ในทุกเทคโนโลยี

ไม่ว่าจะเป็นไฮบริด (HEV),ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV),Range-Extended EV (REEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) รวมทั้งการพัฒนาซัพพลายเชนรองรับ EV เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของอาเซียน และ Top 10 ของโลก

ทั้งนี้ที่ผ่านมา แม้ตลาดรถยนต์โดยรวมไม่ค่อยดีนัก แต่เซกเมนต์ของยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มมีการปรับตัว โดยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการหาตลาดส่งออก ทดแทนตลาดในประเทศที่หดตัว เช่น GWM ที่ได้ส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในไทยไปยังตลาดอาเซียน ออสเตรเลีย และลาตินอเมริกา ส่วน MG ส่งออกไปเวียดนามและอินโดนีเซีย และกำลังเตรียมส่งออกไปมาเลเซียด้วย

ปัจจุบันบริษัทรายใหม่ที่เริ่มต้นผลิตรถยนต์ xEV ในไทยแล้ว เช่น MG,GWM,BYD,GAC Aion,Changan ขณะที่ค่ายญี่ปุ่น ก็ได้ประกาศแผนขยายลงทุนผลิตรถยนต์ xEV ทั้งแบบ HEV,MHEV และ BEV เช่น Mazda,Nissan,Mitsubishi และ Isuzu

ส่วนข้อเสนอในการช่วยเหลือค่ายใดค่ายหนึ่ง แล้วจะกระทบกับความเท่าเทียมกับค่ายอื่นหรือไม่นั้นนายนฤตม์ กล่าวว่า ประเด็นนี้เมื่อต้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการขยายเวลาการผลิตชดเชยตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV 3.0) โดยให้ผู้ผลิตทุกรายสามารถนำยอดที่ยังผลิตไม่ครบ เนื่องจากตลาดรถยนต์หดตัวลงมาก ไปผลิตชดเชยภายใต้เงื่อนไขของมาตรการ EV 3.5 ได้ แต่สัดส่วนการผลิตชดเชยจะสูงขึ้น คือ ผลิตชดเชย 2 เท่า ภายในปี 69 หรือ 3 เท่าภายในปี 70 และจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนจนกว่าจะผลิตชดเชยครบ ซึ่งการขยายเวลาจะช่วยลดผลกระทบแก่อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวม สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศและป้องกันปัญหาสงครามราคา

แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายไป หากยังทำไม่ได้ตามสัญญา บริษัทจะต้องรับบทลงโทษตามเงื่อนไขมาตรการ EV3.5 ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังจัดทำรายละเอียดแนวปฏิบัติในเรื่องนี้ บางส่วนอาจต้องเสนอบอร์ดอีวีเพิ่มเติมด้วย

“ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมข้อมูลวาระต่างๆ กับฝ่ายเลขานุการร่วม ทั้งกรมสรรพสามิต สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ให้ครบถ้วน เพื่อนัดประชุมบอร์ดอีวีโดยเร็ว คาดว่าภายในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งวาระการประชุมบอร์ด จะอัพเดทสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ การกำหนดรายละเอียดของหลักเกณฑ์การใช้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริม HEV MHEV และแนวปฏิบัติในการถ่ายโอนยอดจาก EV 3.0 ไป EV3.5 ซึ่งจะรวมถึงเคสเนต้า ที่กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาด้วย รวมถึงวาระเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม ที่ฝ่ายเลขาฯ กำลังดูอยู่”

อย่างไรก็ตามปัญหาของเนต้าที่ผ่านมา บีโอไอและกรมสรรพสามิตไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามเรื่องเนต้ามา และได้หารือร่วมกันโดยตลอด เมื่อเร็วๆ นี้บีโอไอ ก็ได้เชิญนายเปาหลง ซุน หัวหน้าสายงานธุรกิจเอเชียประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนต้า มาพบ โดยเนต้า แจ้งว่า บริษัทแม่กำลังหารือกับรัฐบาลจีนในการปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะลดสัดส่วนการถือหุ้น และเปิดให้นักลงทุนรายใหม่เข้ามา คาดว่าบริษัทแม่จะแถลงข่าวภายในเดือนมิ.ย. ในระหว่างนี้ บีโอไอและกรมสรรพสามิต จะติดตามใกล้ชิดและเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับดำเนินการต่อไป

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา