06-12
‘พิชัย’ ล้อมวงหอการค้า-สภาอุตฯอุดรธานีรับฟังปัญหาผลักดันการค้า-ท่องเที่ยว
2025-06-09
IDOPRESS
“พิชัย” ล้อมวง “หอการค้า-สภาอุตฯ อุดรธานี” รับฟังปัญหา-ผลักดันนโยบายค้าชายแดนและท่องเที่ยว ยกระดับเศรษฐกิจภูมิภาค
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วยนายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ น.ส.จิตติมา ศรีถาพร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกองตรี พิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคเอกชนในอุดรธานี เพื่อรับฟังข้อเสนอและหารือแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความมุ่งมั่นในการผลักดันเศรษฐกิจการค้าของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง เช่น อุดรธานี ที่เป็นประตูสำคัญสู่ลุ่มน้ำโขง พร้อมย้ำว่าจะได้เริ่มเจรจาการค้าประเด็นภาษีกับสหรัฐฯแล้ว เชื่อมั่นว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนั้นยังมีแผนเจรจาการค้ากับจีน โดยเสนอให้ภาคเอกชนจีนร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยอย่างถูกต้อง ไม่ผ่านระบบนอมินี เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
สำหรับการค้าชายแดนร่วมกับลาว ตนเพิ่งมีโอกาสพบกับ นายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ในระหว่างเยี่ยมชมงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าของลาว เพื่อผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศให้บรรลุเป้าหมาย 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 70 โดยไทยแสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่ง สปป.ลาว ครั้งที่ 8 โดยเร็ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ได้จัดร่วมกันมาตั้งแต่ปี 61 เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม
ทางด้าน นายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ระบุว่าธุรกิจในพื้นที่ยังคงชะลอตัว และได้เสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การจัดแคมเปญ “ลดทั้งเมือง” ตามแบบโมเดลพาณิชย์ลดราคา การจัดงานเกษตรแฟร์ประจำปี รวมถึงฟื้นฟูตลาดผ้าบ้านนาข่า ภายใต้โครงการ “ตลาดต้องชม” ของกรมการค้าภายใน เพื่อรองรับการจัดงานพืชสวนโลก ปี 69 จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่เมืองเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังเสนอให้ลดความถี่ในการตรวจสอบการตีตราปั๊มน้ำมัน โดยสำนักงานชั่งตวงวัด จากปีละ 2 ครั้ง เหลือปีละครั้ง เพื่อลดภาระต้นทุน รวมถึงข้อเสนอจากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ให้พิจารณาทบทวนข้อจำกัดการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติที่พำนักถาวรในไทย โดยเฉพาะชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ต้องการลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ในเวทีดังกล่าว ภาคอุตสาหกรรม โดยพันโท ดร.วรายุส์ ศรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี เสนอแผนการลงทุนด้านไบโอเทคโนโลยีโดยใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่อผลิตถ่านชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรในพื้นที่
นางอรอนงค์ บุญโต ประธาน MOC Biz Club ไทยแลนด์ เสนอแนวคิดจัดตั้ง “Biz Shop” เชื่อมโยงสินค้าชุมชนจากภูมิภาคต่าง ๆ และผลักดันเข้าสู่ช่องทางจัดจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรด พร้อมขอการสนับสนุนด้านบัญชี และดิจิทัลแพลตฟอร์มจากกระทรวงพาณิชย์
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงฯ มีแผนคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อผลักดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศภายใต้แบรนด์ Thailand Brand รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่สำหรับ SMEs เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านบัญชี และเชื่อมโยงเข้าสู่แพลตฟอร์ม e-commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางด้านปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับแหล่งท่องเที่ยว จะเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรูปแบบโฮมสเตย์ เพื่อเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ท้ายสุด รมว.พาณิชย์ยืนยันว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้ความสำคัญกับการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว เป็น 3 เสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันให้อุดรธานีเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่