04-23
‘สุชาติ’ ชี้คนอเมริกันจุก!ภาษีนำเข้าสูงๆทำให้เศรษฐกิจสหรัฐแย่-เงินเฟ้อพุ่ง!
2025-04-23
HaiPress
อดีต รมว.คลัง มองสหรัฐเป็นลูกหนี้ของโลก ซื้อของไปใช้ได้โดยติดหนี้ไว้ แล้วขายบริการทางการเงินใช้หนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะขึ้นภาษีนำเข้าสูงๆ เก็บจากคนอเมริกันเองไปทำไม? ผลลัพธ์ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำ เงินเฟ้อสูง ประเทศพัฒนาช้าลง
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 68 ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง ให้ความเห็นเกี่ยวนโยบายภาษีของผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า 1.ความจริงจุดอ่อนของสหรัฐ คือ เป็นประเทศลูกหนี้ของโลก หนี้ปัจจุบันของรัฐบาลสหรัฐ คือ 36.4 ล้านๆ ดอลลาร์,คิดเป็น 120% ของ GDP ซึ่งเท่ากับ 30 ล้านๆ ดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นหนี้ต่างประเทศทั่วโลกประมาณกว่า 10 ล้านๆ ดอลลาร์,จีนเป็นเจ้าหนี้ 800,000 ล้านดอลลาร์,ญี่ปุ่นเป็นเจ้าหนี้กว่า 1 ล้านๆ ดอลลาร์
2.ปกติประเทศที่เป็นลูกหนี้นำเข้าของมากิน มาใช้ แล้วติดหนี้ไว้ โดยกู้มากินด้วยการขาย US government bond ควรระมัดระวัง หากเจ้าหนี้ทวงเงินคืนจำนวนมาก ความน่าเชื่อถือจะลดลง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนลง จนต่างประเทศไม่ถือเงินดอลลาร์ เป็นเงินสำรองฯ สถานะผู้นำโลกของสหรัฐ จะลดลงอย่างมากมาย
3.คราวนี้สหรัฐไปขึ้นภาษีนำเข้าสูงมาก โดยเฉพาะตัว ทรัมป์ เองบอกว่าชอบขึ้น Import tariff มากๆ เพราะเป็นการเก็บภาษีผู้ผลิตต่างประเทศมาใช้ในชาติ และสามารถลดภาษีเงินได้ของคนในชาติลง และยังจะทำให้ผู้ผลิตในโลก ย้ายฐานการผลิตมาสหรัฐ สร้างงานและเงินในสหรัฐ ทำให้ America great again.
4. ความจริงสหรัฐ ไม่เชี่ยวชาญการผลิตอุตสาหกรรมไปนานแล้ว แต่เชี่ยวชาญด้านการเงินและบริการ ซึ่งในปี ค.ศ. 2024 สหรัฐเกินดุลบริการต่อโลกเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทสหรัฐส่วนใหญ่ผลิตสินค้าไฮเทคในจีน,เกาหลี,ไต้หวัน และในอาเซียน ซึ่งการจะบังคับให้มีการย้ายฐานการผลิตกลับเข้ามาในสหรัฐ จะต้องใช้เงินลงทุนใหม่หลายแสนล้านดอลลาร์ และการสร้างโรงงานใหม่ใช้เวลาเป็นปีๆ และคนงานในสหรัฐเองก็ไม่เชี่ยวชาญ จึงนับเป็นเรื่องระยะยาวที่ยากมาก
5.แต่ผลลัพธ์ทันทีต่อประชาชนสหรัฐ ในการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งนี้ คือราคาสินค้านำเข้าจะเพิ่มขึ้นคิดเป็น 90-95% ของการขึ้นภาษี (งานวิจัยในสหรัฐในการขึ้นภาษีของทรัมป์เมื่อปี 2018) วันนี้คนสหรัฐทั้งประเทศ จึงวิ่งอลหม่านไปซื้อสินค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนสหรัฐเอง
6.นโยบายของ ทรัมป์ มีแต่จะทำลายความเชื่อมั่นต่อสหรัฐ ทำให้ประเทศที่เหลือรวมตัวกันมากขึ้น แล้วค้าขายกันเอง เศรษฐกิจสหรัฐจะลดสัดส่วนในโลกลงเร็วขึ้น
7.ทรัมป์ ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายกลับไปกลับมาหลายครั้ง เพราะ (1) ราคา US government bonds ลดลงมาก (คือ Bond yields สูงขึ้นมาก),(2) ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง และ (3) หุ้นในสหรัฐ ตกลงมาก ซึ่งจะทำให้เครดิตสหรัฐลดลง และเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการผลิตตกต่ำลง พร้อมกับเผชิญเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก
8.ทรัมป์ ประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าต่อจีนที่สูงถึง 145% ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์,ไอที,มือถือ ที่เดิมหวังจะให้ย้ายฐานออกจากจีนมาสหรัฐ
9.จะเห็นได้ว่านโยบายนี้ไม่มีปรัชญาเศรษฐศาสตร์รองรับ จะทำให้ล้มเหลวต่อทั้งประชาชนในสหรัฐ และต่อประชาชนต่างประเทศ การเลือกตั้ง สส. และ สว.สหรัฐ ในปี ค.ศ. 2026 คงจะเกิดการเลือกพรรคเดโมแครตมากมาย และอาจมีความพยายามปลด ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี (Impeachment) เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อไป