04-23
“พลังงาน”ชี้ไฟฟ้าหมุนเวียน 5,200 เมกะวัตต์ที่พรรคปชน.ระบุ เลิกสัญญายาก หวั่นโดนเอกชนฟ้องกลับ
2025-04-21
HaiPress
“พลังงาน” ชี้โครงการไฟฟ้าหมุนเวียน 5,200 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ปี 65 “พีระพันธุ์” เคยตอบกระทู้สภาแล้ว เลิกสัญญาไม่ได้ เหตุลงนามไปบ้างแล้ว หวั่นโดนเอกชนฟ้องกลับ แต่ถ้าพบทุจริตสั่งยกเลิกแน่
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ว่า 19 เม.ย. จะถึงกำหนดวันที่รัฐบาลนัดเอกชนลงนามสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบ 5,200 เมกะวัตต์ ส่งผลให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟแพงกว่าที่ควรเป็นกว่า 1 แสนล้านบาทตลอดระยะเวลา 25 ปี ว่า โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้มีการเปิดประมูลไป 2 รอบ รอบแรก 5,200 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ปี 65 ซึ่งประมูลจริง 4,852 เมกกะวัตต์ เนื่องจากมีบางส่วนไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล และสภาพพื้นที่ไม่เหมาะสม มีสัญญาทั้งสิ้น 175 ฉบับหรือโครงการ มี กฟผ. เกี่ยวข้อง 83 โครงการ เซ็นสัญญาไปแล้ว 64 โครงการ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 65 ส่วนที่เหลือยังต้องเดินหน้าต่อ ไม่เช่นนั้นจะถูกมองว่า เลือกปฏิบัติ อาจถูกเอกชนฟ้องร้องได้
ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ได้เคยตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับข้อสงสัยในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ว่า ได้สอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้มีการเปิดประมูลรอบแรก 5,200 เมกะวัตต์ ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า เนื่องจากมีการเซ็นสัญญาไปแล้ว หากยกเลิกหรือชะลอการเซ็นสัญญาส่วนที่เหลือ อาจจะทำให้เกิดปัญหาข้อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม นายพีระพันธุ์ได้ยืนยันในการตอบกระทู้สดว่า หากมีการตรวจพบความไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือการทุจริต จะต้องมีการดำเนินการในทุก ๆ โครงการอย่างไม่ละเว้น รวมถึงโครงการในเฟสแรก 5,200 เมกะวัตต์ด้วย ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มเงื่อนไขการทำสัญญาต่อไปว่า หากตรวจพบว่า โครงการใดมีความไม่ชอบด้วยกฎหมายทาง กฟผ. สามารถบอกเลิกสัญญาได้ อย่างไรก็ตาม โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้มีการเปิดประมูลไป 2 รอบ รอบแรก 5,200 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ปี 65 และรอบสอง 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งเปิดประมูลโครงการย่อยไป 2,100 เมกะวัตต์ เมื่อเดือน มี.ค. 66 ทั้งสองโครงการนี้ แม้รัฐบาลปัจจุบันจะไม่ได้เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้น แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามหาทางแก้ไขปัญหา โดยได้สั่งชะลอการรับซื้อไฟฟ้าในเฟสที่ 2 และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีตนเป็นประธานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 2,100 เมกะวัตต์ ซึ่งกำลังจะเร่งสรุปผลภายในเดือนนี้
“ผมไม่เอาด้วยหรอกครับ อะไรที่ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ผมพบและคณะกรรมการพบในขณะนี้ก็คือว่าความสับสนในเรื่องกฎหมายและอำนาจหน้าที่” นายพีระพันธุ์ กล่าวระหว่างการตอบกระทู้สภา