04-23
กู้หรือไม่ จับตาคลังเร่งหาเงิน รับมือวิกฤติเศรษฐกิจ กำแพงภาษีทรัมป์
2025-04-18
IDOPRESS
จับตา คลัง เล็งกู้เพิ่มเติมรับมือวิกฤตินโยบายทรัมป์ ภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มชะงัก โดยยอดปล่อยกู้และภาคธุรกิจชะลอลงทุน
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์การจัดเก็บรายได้ และความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องใช้เงินกู้เพิ่มเติม เพื่อรองรับกรณีที่เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยปัจจุบัน รัฐบาลมีการตั้งขาดดุลงบประมาณที่ 8.65 แสนล้านบาท ซึ่งมีแผนการใช้จ่ายรองรับไว้หมดแล้ว หากจะต้องมีการใช้จ่ายเพิ่ม ก็จำเป็นต้องใช้เงินกู้
นอกจากนี้ ยังต้องประเมินถึงระดับหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้นไปชนเพดานการก่อหนี้ตามกรอบวินัยการเงินการคลังด้วย โดยขณะนี้ ระดับหนี้สาธารณะอยู่ที่ประมาณ 64% ขณะที่ กรอบเพดานการก่อหนี้อยู่ที่ไม่เกิน 70% ของจีดีพี หากพิจารณาจากกรอบ พ.ร.บ.การก่อหนี้สาธารณะแล้ว จะพบว่า รัฐบาลมีช่องว่างที่จะกู้เงินได้เพียง 1 แสนล้านบาทเท่านั้น ซึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับการใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้น จึงเหลือเพียงช่องทางเดียว คือ การออก พ.ร.บ.กู้เงินเพิ่มเติม เช่นเดียวกันกับกรณีที่เกิดวิกฤติโควิดเมื่อปี 2563 แต่ทั้งนี้ การออก พ.ร.บ.กู้เงินเพิ่มเติมนั้น รัฐบาลจะต้องมีเหตุจำเป็น เช่น เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะวิกฤติ มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องกู้เงินเพิ่มเติม และ ต้องมีโครงการใช้จ่าย รวมถึงกำหนดระยะเวลาการใช้จ่าย ขณะที่ สถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ยังไม่ถือว่าเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลอาจไม่สามารถใช้ช่องทางการกู้เงินดังกล่าวได้
สำหรับยอดการจัดเก็บรายได้ 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 68 ทำเกินกว่าเป้าหมายเพียง 0.1% เท่านั้น นอกจากนี้ ขณะนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจไทย ยังเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากนโยบายการใช้กำแพงภาษีของสหรัฐ เพื่อตอบโต้ประเทศที่เกินดุลการค้าของสหรัฐ ซึ่งจะกระทบต่อเป้าหมายการส่งออกสินค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสนับสนุนจีดีพีในปีนี้ ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนในประเทศก็ชะลอการลงทุน เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อ ที่จะเข้ามากระทบกับภาคธุรกิจ จะเห็นได้จากยอดการปล่อยสินเชื่อก็อยู่ในภาวะชะลอตัว