03-06
ททท. ยกทัพเอกขน 160 ราย ร่วมงาน ITB Berlin 2025
2025-03-05
IDOPRESS
ททท.เล่นใหญ่ ITB Berlin 2025 ยกทัพเอกชน 160รายร่วมงานขยายพื้นที่เพิ่มเกือบ2พันตรม.รุกตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ดันเป้าตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลสู่ 8.7 แสนล้านบาท
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลกของประเทศไทยในครั้งนี้ มีความพิเศษกว่าทุกปี โดยได้ขยายขนาดพื้นที่คูหาของประเทศไทยจากขนาด 540 ตรม. เป็น 1,820 ตรม. หรือขนาด 1 ฮอลล์ของ งานไอทีบี เบอร์ลิน เพื่อให้สอดรับกับการประกาศให้ปี 2568 เป็นปี “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” และขับเคลื่อนนโยบาย Ignite Tourism Thailand ผลักดันไทยสู่ตลาดโลก พร้อมกันนั้นในงาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายดรัฐมนตรีก็จะได้ร่วมและโปรโมทท่องเที่ยวไทยในงานดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ได้นำผู้ประกอบการภาคเอกชนไทยเข้าร่วม 160 ราย จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย ทั้งจากเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยว เพื่อร่วมพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรป สร้างโอกาสในการเปิดตลาด สร้างและขยายเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการไทยในการรุกตลาดนักท่องเที่ยวศักยภาพที่มีระยะเวลาพำนักในประเทศไทยนาน และมีการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง ให้มุ่งสู่เป้าหมายในปี 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล 10.6 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 8.7 แสนล้านบาท
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ททท. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน นำเสนอศักยภาพทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยในทุกมิติ จำนวน 160 ราย ประกอบด้วย โรงแรมที่พัก 88%, บริษัทดีเอ็มซี 8 %และอื่น ๆ 4%
ขณะที่ไฮไลต์ของพื้นที่ประเทศไทยอยู่ที่การนำเสนอเสน่ห์ไทย ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค ภายใต้แนวคิด 5Must do in Thailandควบคู่ไปกับการนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสการท่องเที่ยวที่สำคัญทั่วโลก รวมถึงนวัตกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ แทรเวล เทค ที่ได้เปิดตัวTATAIตู้ 3D hologramที่ใช้เทคโนโลยี เอไอ (TATAI)ประมวลผลข้อมูลและองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวไทยในรูปแบบดิจิทัลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวผ่านการสนทนาบนเว็บไซต์ เป็นอีกแรงส่งสำคัญในการผลักดันตลาดการท่องเที่ยวไทยสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับพื้นที่การจัดแสดงของประเทศไทยในปีนี้ได้ให้ความสำคัญในการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ ภายใต้แนวคิด Sustainable Thailand Soft Power โดยการออกแบบสะท้อนเอกลักษณ์ไทยสู่เวทีโลก (Local Meets Global) เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางผ่านแบรนด์ Amazing Thailand พร้อมเปิดปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ในตลาดต่างประเทศเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้ได้มีการจัดสรรพื้นที่แบ่งออกเป็นหลากหลายโซน เพื่อนำเสนอประเทศไทยในทุกมิติ ซึ่งมีไฮไลต์ ได้แก่
โซนเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) พื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจจากเมืองน่าเที่ยว 17 จังหวัดจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย
โซน SANEH THAI SHOWCASE,SUSTAINABILITY NOW จัดแสดงสินค้าอัตลักษณ์ที่นำเสนอเรื่องราวเมืองน่าเที่ยวจากภูมิภาคต่างๆ อาทิ วาสนาเครื่องจักสานไม้ไผ่จากเชียงใหม่ มีใจสตูดิโอจิวเวลรีจากจันทบุรี, ผลิตภัณฑ์จากผ้าย้อมสีธรรมชาติ สีห้อมจากแพร่คราฟต์ สีบัวแดงจากอุดรธานี, เครื่องเงินดอยซิลเวอร์จากน่าน เครื่องเงินสุโขทัย, เครื่องปั้นจากสมุทรสงคราม (เบญจรงค์) เซรามิคธนบดีจากลำปาง, ผลิตภัณฑ์จากลูกปัดโนราห์จากสงขลา, เครื่องหอมจากกรุงเทพฯ ระยอง และปราจีนบุรี จัดกิจกรรมเวิร์คชอป Scents of Thai DIY ถุงเครื่องหอมแบบไทย จากดอกไม้แห้งและน้ำมันหอมดอกไม้ไทย จัดแสดง Thailand Green Destinations Map นำเสนอสินค้าท่องเที่ยวไทยที่ได้รับมาตรฐานความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับสากลรวมทั้งนำเสนอโมเดลต้นแบบของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดกระบี่ (Krabi : Sustainable Tourism Model),
โซน SANEH THAI Café นำเสนอเมนูเครื่องดื่มชา กาแฟ และโกโก้ จากแหล่งปลูกในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้า GI พร้อมทั้งเสิร์ฟเมนูอาหารว่างรสชาติไทย อาทิ ต้มยำกุ้ง ลาบไก่ และช็อคโกแลตไทย และการจำลองเมนูของจิ๋วจากร้านมิชลิน 17 จังหวัดทั่วไทย จาก Michelin Guide 2025 พร้อมนำเสนอคอนเทนต์เมนูอาหารไทยยอดนิยมติดอันดับโลก,
โซน Travel Tech ระบบนำร่อง TATAI ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประมวลผลผ่านตู้ 3D hologram เพื่อให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวผ่านการสนทนา รวมถึงนำเสนอการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยสร้างสรรค์วิดีโอโปรโมทธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการไทย และพื้นที่หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กรมการท่องเที่ยว องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.)
สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดระยะไกล ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 23 ก.พ.68 จำนวน 2.34 ล้านคน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจากยุโรป 1.85 ล้านคน อเมริกา 310,000คน ตะวันออกกลาง 152,000 คน และแอฟริกา 24,000 คน โดยในปี 2568 นี้ททท. ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลเดินทางเข้าไทย 10.6 ล้านคน แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวจากภูมิยุโรป 7.7 ล้านคน อเมริกา 1.6 ล้านคน ตะวันออกกลาง 1.2 ล้านคน และแอฟริกา 1.5 แสนคน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 869,200 ล้านบาท