03-10
เงินบาทผันผวน ‘แข็งค่า-อ่อนค่า’ จับตาสัปดาห์หน้า เงินเฟ้อไทย-สงครามการค้า
2025-03-03
HaiPress
ค่าเงินบาทผันผวน แข็งค่าทุบสถิติในรอบ 4 เดือน ก่อนพลิกอ่อนค่าท้ายสัปดาห์ หลังกนง.ลดดอกเบี้ย จับตาสัปดาห์หน้า เงินเฟ้อไทย สงครามการค้าสหรัฐ คาดกรอบ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มพลิกอ่อนค่า หลัง กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และเผชิญแรงขายเพิ่มเติมตามราคาทองคำตลาดโลกที่ร่วงหลุดระดับ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ช่วงท้ายๆ สัปดาห์
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือน (นับตั้งแต่ 22 ต.ค. 2567) ที่ 33.38 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ หลัง กนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลง 0.25% มาที่ระดับ 2.00% (ตลาดคาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% ตามเดิม)
เงินดอลลาร์ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมตามสัญญาณตึงเครียดของสงครามการค้า หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวย้ำว่า สหรัฐ จะมีการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. นี้ เงินบาทยังคงปรับตัวอ่อนค่าในช่วงปลายสัปดาห์ โดยอ่อนค่าผ่านแนว 34.00 ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 34.20 บาทต่อดอลลาร์ ตามทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติ และการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกที่หลุดระดับ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงมา
ในวันศุกร์ที่ 28 ก.พ. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 34.12 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.61 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (21 ก.พ.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 10,232 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 531 ล้านบาท (แบ่งเป็น ซื้อสุทธิพันธบัตร 494 ล้านบาท แต่ตราสารหนี้หมดอายุ 1,025 ล้านบาท)
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของไทย สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และประเทศคู่ค้าอื่น ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุม ECB ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกและสัญญาณฟันด์โฟลว์ในตลาดการเงินไทย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือน ก.พ. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ม.ค. รายงาน Beige Book ของเฟด รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) และตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน ก.พ. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ของยูโรโซน และตัวเลขการส่งออกเดือน ม.ค.-ก.พ. ของจีนด้วยเช่นกัน