03-10
ธปท.ถกภาคธุรกิจ ปรับเกณฑ์ LTV ชี้รอดูข้อมูล-ความเหมาะสม
2025-02-28
IDOPRESS
ธปท. ถกภาคธุรกิจ ปรับเกณฑ์แอลทีวี รอดูข้อมูลและความเหมาะสม ขณะที่มาตรการรัฐ Easy E-Receipt และโอนเงินหมื่นดันเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น
วันที่ 28 ก.พ. น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าข้อเสนอปรับเงื่อนไขมาตรการเกณฑ์สินเชื่อบ้าน (แอลทีวี) ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในแง่ข้อมูลต่างๆ ที่เข้ามา เช่น ในภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างมีพัฒนาการต่างๆ ที่เปลี่ยนไป โดยที่ผ่านมา ได้มีการหารือกับภาคธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ระหว่างการดูความเหมาะสม
ส่วนมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน คุณสู้ เราช่วย เดินหน้าต่อ โดยมีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนต่อเนื่อง และยอดการลงทะเบียนมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกเดือน ขณะที่การหารือกับกระทรวงการคลัง เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เป็นมาตรการที่เน้นการท่องเที่ยว ภาคเกษตร เป็นหลัก และรอดูว่ามีมาตรการอุตสาหกรรมและภาคการผลิตออกมาด้วยหรือไม่
สำหรับเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค. ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ เช่น มาตรการยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ มาตรการอีซี่ อี-รีซีท และมาตรการโอนเงินดิจิทัล เฟส 2 ส่งผลดีต่อภาคบริการด้านขนส่ง และการใช้จ่ายในสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้ากึ่งคงทน รวมถึงการผลิตในหมวดยานยนต์ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์นั่ง
อย่างไรก็ตาม การส่งออกหมวดยานยนต์หดตัว ตามการส่งออกรถกระบะและรถยนต์นั่งไปออสเตรเลีย จากอุปสงค์ที่ชะลอตัว ด้านการจ้างงานโดยรวมทรงตัว แต่ยังต้องติดตามการจ้างงานโดยเฉพาะภาคการก่อสร้างและภาคการผลิต
ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 1.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลของฐานต่ำในปีก่อน ประกอบกับราคาผักเพิ่มขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามราคาอาหารสำเร็จรูป สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้าที่เกินดุลลดลงเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุลเพิ่มขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้า ขยายตัว 12.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านการนำเข้าขยายตัว 7.5%
สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ ในเดือน ม.ค. โดยเงินบาทเฉลี่ยอ่อนค่าตามปัจจัยโลก หลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ได้เพิ่มความกังวลต่อการค้าโลกในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ในเดือน ก.พ. 68 เงินบาทเฉลี่ยปรับแข็งค่า รวมถึงดัชนีค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ตามเงินบาทที่เคลื่อนไหวแข็งค่าอยู่ในกลุ่มนำสกุลเงินภูมิภาค หลังตลาดมองว่านโยบายกีดกันทางการค้าสหรัฐ อาจไม่รุนแรงตามคาด และการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน ที่เป็นไปในเชิงบวก ประกอบกับได้รับปัจจัยด้านแข็งค่าเพิ่มเติมจากปัจจัยฤดูกาลภาคท่องเที่ยว
“เศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค. ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามภาคการท่องเที่ยวปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจำนวนที่มีนักท่องเที่ยว 3.7 ล้านคน และรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้านการบริโภคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการภาครัฐ สอดคล้องกับกิจกรรมการค้า การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนภาคเอกชน ประกอบกับการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน แต่ยังกระจุกตัวแค่บางหมวด ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่องจากทั้งรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำ”
น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ยังมีแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยว และบริการอย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมทั้งนโยบายการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลต่อการฟื้นตัวของรายรับธุรกิจและรายได้ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ ในระยะต่อไปต้องติดตาม คือ การพัฒนาการของภาคการผลิต ผลกระทบจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ