ยังไม่ชัดเจน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คลัง ถก ธปท-สภาพัฒน์ ทำแผนกระตุ้นจีดีพี 3.5%

2025-02-28     HaiPress

มาตรการยังไม่ชัดเจน คลัง ถก ธปท สภาพัฒน์ ทำมาสเตอร์ แพลน กระตุ้นจีดีพีปีนี้ โต 3.5% ตามคำสั่งนายก

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่าร่วมกับสามหน่วยงานด้านนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง,ธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒย์ โดยให้ 3 หน่วยงานที่กำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ สามารถบรรลุ้เป้าหมายการเติบโตที่ 3.5 % ในปีนี้

“หากเราสามารถรักษาการเติบโต และสามารถปรับปรุงในส่วนที่เรายังขาด เชื่อว่าจีดีพีของประเทศในปีนี้จะสามารถยืนอยู่เหนือ 3 % ได้

แม้ก่อนหน้านี้ สภาพัฒน์แถลงว่าเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวในอัตรา 2.5 % ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่จีดีพี ในไตรมาสที่หนึ่งและสอง อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่า 2% เนื่องจากเม็ดเงินงบประมาณไม่ไหลเข้าระบบเศรษฐกิจ แต่หลังจากนั้นในช่วงไตรมาสที่สามและสี่ เมื่อเม็ดเงินภาครัฐสามารถไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ การขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่สาม และสี่ ของปีที่แล้ว จึงสามารถขยายตัวได้ 3 และ 3.2 % ตามลำดับ ทำให้การขยายตัวของจีดีพี ในครึ่งหลังของปี อยู่ที่ 3.1

นายพิชัย กล่าวว่า การตั้งเป้าหมาย จีดีพีในปีนี้ ที่ 3-3.5% ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมาก โดยนายกรัฐมนตรี อยากเห็นให้เศรษฐกิจในปีนี้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว ซึ่งการจะผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว จะต้องมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง แต่เราไม่สามารถทำแบบเดิม เช่นการผลักดันงบประมาณเพื่อกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนซึ่งนั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งของแผน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องทำ แผนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

“เราจะต้องมาพิจารณาถึงจุดแข็งของประเทศไทย ว่าคืออะไร ถ้าเริ่มตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลเศรษฐา นั่นก็เป็นการจับจุดแข็งของประเทศ ในแง่การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ และเรามีคนที่มีอัธยาศัยดี และมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูด เราจึงมาเน้นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งการลงทุนเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวอาจจำเป็นต้องมีการลงทุนเพื่อพัฒนาสนามบินในเมืองรองของประเทศ เป็นต้น ขณะที่จุดอ่อนของเราในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ เรามีเพดานทางการคลังที่น้อย ซึ่งงบประมาณปี 2025 ที่มีรายจ่ายรวม 3.752 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่มีสินค้าเกษตรที่เป็นตัวหลักประมาณ 5 ตัว แต่ไม่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ ในเชิงต้นทุนก็สูงหรือด้านราคาก็แข่งขันไม่ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมีผลของอัตราแลกเปลี่ยนที่เราสู้กับประเทศอื่นไม่ได้ ดังนั้นเราจะทำอย่างไรเพื่อให้สินค้าเหล่านั้น สามารถแข่งขันได้ทั้งในด้านปริมาณและราคา ตัวอย่าง กรณีข้าวที่เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นบข. ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อสำรวจข้อมูลทั้งด้านการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออก ว่า เป็นข้าวประเภทใดบ้าง และราคาอยู่ในระดับใด เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายต่อไป

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา