แอลเอชฯ รับมือผันผวน ตั้งสำรองหนี้เสียสูง รุกสินเชื่อธุรกิจ-เทรดไฟแนนซ์

2025-02-27     HaiPress

แอลเอชฯ รับมือผันผวน ตั้งสำรองหนี้เสียสูง ชูกลยุทธ์ปี 68 เน้นสินเชื่อธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เทรดไฟแนนซ์

นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล ประธาน และหัวหน้ากลุ่มงานการเงินและบัญชี บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHFG) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 67 จะค่อยๆ ฟื้นตัวจากการส่งออก การท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยี สภาพแวดล้อม และภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยในปี 67 มีอัตราการเติบโตถึง 7.3% ส่งผลให้มียอดสินทรัพย์ 346,863 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,047 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,010 ล้านบาท เติบโต 18.7% เมื่อเทียบกับปี 66 จากการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และการควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่เข้มงวด โดยสินเชื่อเติบโต 6.6% และสามารถรักษาสัดส่วนหนี้เสียในระดับต่ำที่ 2.34% พร้อมตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญอย่างระมัดระวัง ทำให้มีอัตราส่วนความคุ้มครองหนี้เสียสูงถึง 214%

ทั้งนี้ ในปี 67 ธนาคารประสบความสำเร็จในการขยายสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจไต้หวันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเติบโตถึง 43% ด้วยการสนับสนุนจากซีทีบีซี แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวัน และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังเติบโต 12%

สำหรับปี 68 ธนาคารมีกลยุทธ์มุ่งเน้นการขยายสินเชื่อธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพ รวมถึงบริการเทรดไฟแนนซ์ และอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของซีทีบีซี แบงก์ ในการเข้าถึงฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อและบริการทางการเงิน

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอี ผ่านการพัฒนาโปรดักส์ โปรแกรม ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเอสเอ็มอี ด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งขยายช่องทางการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าในพื้นที่เศรษฐกิจอีอีซี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนและอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ โดยจะเปิดสาขาอมตะซิตี้ ชลบุรี ในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปี 68

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา