‘เซ็ปเป้‘ทำ All Time High ยอดขายแตะ 6,775 ล้านบาท

2025-02-25     IDOPRESS

‘เซ็ปเป้‘ทำ All Time High ยอดขายแตะ 6,775 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,252 ล้านบาท

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE


เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 6,775 ล้านบาท เติบโต 11.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 6,053 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 1,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.6% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1,074 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 18.5% จากปีก่อนอยู่ที่ 16.6% ซึ่งการขยายตัวของยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ทำให้แบรนด์ SAPPE เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับสากล และสะท้อนผ่านผลประกอบการที่เติบโตในปีที่ผ่านมา

สำหรับตลาดต่างประเทศในปี 2567เซ็ปเป้มีรายได้จากการขาย5,404ล้านบาท เพิ่มขึ้น10.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น80% ของรายได้จากการขายรวมจากการส่งออกไปมากกว่า100ประเทศทั่วโลก ด้วยช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ช่องทางห้างค้าปลีก (Modern Trade)และร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade)รวมทั้งการทำO2O (Online to Offline Marketing)ในบางประเทศโดยตลาดที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่น ได้แก่กลุ่มทวีปตะวันออกกลางที่เติบโต54%ทวีปอเมริกาเติบโต37%ทวีปเอเชียเติบโต6%โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดต่างประเทศยังเป็นน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์Mogu Mogu (โมกุ โมกุ) และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้แบรนด์Sappe Aloe Vera Drink (เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์)

ขณะที่ตลาดในประเทศ เซ็ปเป้มีรายได้จากการขายอยู่ที่1,372ล้านบาท เพิ่มขึ้น18.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการทยอยออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องกว่า16SKUsเช่น เครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินแบรนด์B’lue 2รสชาติ2อารมณ์ คือ “รสอกหัก” และ “รสคลั่งรัก” และผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix)ที่ทำยอดขายเติบโตแรงในร้านสะดวกซื้อ7-11,ช่องทางTraditional TradeและE-Commerceด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรงรวมถึงมีการประกาศรีแบรนด์ดิ้ง (Rebranding)ครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการของ“เซ็ปเป้ บิวติ” (Sappe Beauti)ซึ่งได้ผลตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดีขณะที่มะพร้าวน้ำหอมแบรนด์All Cocoมีการเติบโตโดดเด่นในช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)อย่างแมคโคร และการขายเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานต่างๆ

อย่างไรก็ตามในปี 2568 มีการคาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากปรากฏการณ์ลานีญา ซึ่งทำให้สภาพอากาศร้อนสลับฝน และส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มมองหาเครื่องดื่มที่ช่วยบรรเทาความร้อนมากขึ้น ขณะเดียวกันกระแสการดูแลสุขภาพยังคงเติบโตต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นพัฒนาและคิดค้นผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Sappe Beauti x Dr.PONG เครื่องดื่มแบบช็อต (Healthy Shot Drink) 2 สูตร ได้แก่ Colla Gluta และ Asta Q10 ซึ่งได้รับผลตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคอย่างดี นอกจากนี้ เครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินแบรนด์ B’lue ก็ยังคงเดินหน้าเจาะเซ็กเมนต์ใหม่ๆเพื่อครองใจผู้บริโภคมากขึ้น

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา