03-10
เข้าขั้นวิกฤติ!! ยานยนต์ไทยส่อทรุดลากยาว 3 ปีติด กระบะ-เก๋ง-อีวีร่วงหมด จี้รัฐดึงบสย.ค้ำด่วนใน 2 เดือนนี้
2025-02-25
HaiPress
น่าห่วง!! ยานยนต์ไทยวิกฤติแล้ว ส่อร่วง 3 ปีติด กระบะ-เก๋ง-อีวี ก็ไม่รอด พิษกู้ยากทุบยอดขายใน ปท.-อีวีจีนราคาถูกลาม ฉุดยอดส่งออกประเทศคู่ค้าซื้อรถผลิตไทยยากขึ้น อ้อนวอนรัฐเร่งออกมาตรการกู้วิกฤติให้ บสย. ค้ำประกันซื้อรถกระบะภายใน 2 เดือน มอง 4 เดือนช้าเกินไป ชี้อุตฯ ยานยนต์ ซัพพายเชนยาว ถ้าฟื้นก็ฟื้นทั้งระบบ กระตุ้นกำลังซื้อได้แน่
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบันนี้ อยู่ในช่วงเข้าขั้นวิกฤติ น่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากยังไม่ฟื้นตัวลากยาวมาตั้งแต่ปี 66-67 จนถึงปี 68 ก็ยังน่าเป็นห่วง เป็นผลจากสถาบันการเงิน ยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างมาอยู่ ส่งผลกระต่อยอดผลิต และยอดขายรถกระบะ รถเก๋งทั้งหมด ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ราคายังไม่นิ่ง จากการแข่งขันการทำราคา ทำให้ผู้บริโภคยังไม่กล้าตัดสินใจซื้อ
ทั้งนี้อุตฯ ยานยนต์ ต้องการวอนขอให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อรถกระบะ เพื่อกระตุ้นยอดซื้อรถใหม่ ให้เร็วขึ้นจากเดิมระบุว่า 4 เดือน มองว่า ช้าเกินไป ขอเป็นภายใน 2 เดือน เนื่องจากการผลิตรถกระบะ ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก หากแรงงานมีรายได้ก็จะไปจับจ่ายใช้สอย มีกำลังซื้อ และอุตฯ ยานยนต์มีซัพพายเชนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก จะได้รับอานิสงส์ทั้งหมด
สำหรับยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ม.ค. มีการผลิตรถทั้งสิ้น 107,103 คัน ลดลง 24.63% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะการผลิตขายในประเทศเหลือ 32,059 คันเท่านั้น ลดลงถึง 31.78% และการผลิตส่งออกได้เพียง 75,044 คัน ลดลงถึง 21.1% ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศมี 48,092 คัน ลดลง 12.26% เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศปี 67 ขยายตัวในอัตราต่ำที่ 2.5% ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลง โดยเฉพาะผลผลิตยานยนต์ที่มีอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากลดลง แรงงานจำนวนมากมีรายได้ลดลง ทำให้ใช้จ่ายลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่ำ
ส่วนการส่งออก รถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 62,321 คัน ลดลงถึง 28.13% จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการตอบโต้มากน้อยเพียงใด รวมทั้งการส่งออกของรถยนต์ไฟฟ้าจีนราคาถูกมาแข่งขันมากขึ้นในประเทศคู่ค้า และรถยนต์ส่งออกบางรุ่นกำลังจะเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ และจากเดือน ธ.ค. มีวันหยุดมาก บางบริษัทเปิดทำการช้าในเดือนมกราคม จึงผลิตได้น้อย ทำให้เดือนมกราคมมีรถส่งออกได้น้อยในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลาง และอเมริกาใต้
ด้านการจดทะเบียนยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทแบตเตอรี่ (บีอีวี) เดือน ม.ค. 68 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้าบีอีวี จดทะเบียนใหม่ 14,711 คัน ลดลง 7.73% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่ง ณ วันที่ 31 ม.ค. 68 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภทบีอีวี มีทั้งสิ้น 242,076 คัน เพิ่มขึ้น 63.85% เช่น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ 171,617 คัน เพิ่มขึ้น 66.15%,รถยนต์นั่ง 168,318 คัน เพิ่มขึ้น 64.77%,รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 2,541 คัน เพิ่มขึ้น 211.02%