03-10
“พิชัย” หวัง กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มความร้อนแรงให้เศรษฐกิจในช่วงที่จีดีพีเริ่มขยับเพิ่มขึ้น
2025-02-25
HaiPress
“พิชัย” หวัง กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพิ่มความร้อนแรงให้เศรษฐกิจในช่วงที่จีดีพีเริ่มขยับเพิ่มขึ้น พร้อมขอแบงก์ชาติอ่อนเกณฑ์ LTV ยืดหยุ่นปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 26 ก.พ. นี้ ว่า ขณะนี้ทุกประเทศพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ย เป็นเรื่องของการพิจารณาจากเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อของประเทศไทย ถือว่าต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเงินเฟ้อลงแล้วสามารถเพิ่มความร้อนแรงทางเศรษฐกิจได้บ้าง ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วนั้นตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัวได้ 2.5% แต่ว่าในสองไตรมาสแรกของปีนั้น ทำอะไรไม่ได้ เมื่อมาดูว่าการเติบโตของเศรษฐกิจนั้น ในไตรมาส 3-4 ของปีเป็นเท่าไหร่ แล้วเราทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ขณะที่เรื่องของการลดดอกเบี้ยลง นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจยังช่วยเศรษฐกิจไทยได้ในเรื่องของการส่งออก เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าลง จะเป็นประโยชน์กับประเทศส่งออก โดยขณะนี้ในประเทศนั้น ค่าเงินถือว่ายังแข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูย้อนหลังไป ก็จะเห็นว่าแนวโน้มค่าเงินของเราแข็งขึ้น ซึ่งค่าของเงินเป็นผลลัพธ์ของมาตรการต่างๆ และเกี่ยวข้องกับความสามารถในการแข่งขัน
“เรื่องนี้ในตอนที่ตนเองเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดที่ไปยังประเทศญี่ปุ่น ก็ได้มีการหารือกับรัฐบาลของญี่ปุ่นในเรื่องนี้ ซึ่งญี่ปุ่นก็บอกว่า เขาเป็นประเทศส่งออก ค่าเงินก็เคยแข็งค่าอยู่นานก็อ่อนค่าลง ซึ่งได้ประโยชน์จากการส่งออก แต่ว่าในเรื่องของการนำเข้า ผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ว่าเศรษฐกิจของเขาก็ฟื้นขึ้นมาได้ ตอนนี้ถ้ามองเรื่องอะไรต้องไม่มองด้านเดียว ต้องมองว่าทำอย่างไรให้มีเงินหมุนเวียนและเหมาะสมกับสถานการณ์” นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ในเรื่องของดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารพาณิชย์มีการปล่อยกู้ โดยเฉพาะการปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอี ปัจจุบันในเรื่องนี้มีการกระเตื้องขึ้นในทางเศรษฐกิจ ก็น่าจะมีความยืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น นอกจากนั้นในเรื่องของอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เรื่องนี้ตนเองก็พยายามพูดเช่นกันให้มีการผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งคิดว่าเรื่องเหล่านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีข้อมูลเหล่านี้หมดแล้ว น่าจะมีการใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพิจารณาด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า ได้มีการหารือกับ ธปท. และสถาบันการเงินเพิ่มเติม เรื่องของการเพิ่มมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน และการปรับโครงสร้างหนี้ ที่มีบางเรื่องที่สามารถที่ปรับโครงสร้างได้อัตโนมัติ ซึ่งเร็วๆ นี้ จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายในการทำงานที่สำคัญของรัฐบาล เรื่องของการแก้หนี้มีอยู่หลายล้านบัญชี ซึ่งในขณะนี้ก็ต้องดูว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมได้ อาจเป็นการลดเลยได้หรือไม่ เพราะลูกหนี้ที่เป็นรายย่อยมากๆ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร การปรับโครงสร้างหนี้ในส่วนนี้เป็นเรื่องวิธีการในการจะปรับ แต่หลักการยังเหมือนเดิม