‘จุลพันธ์’ เผยคงกรอบเงินเฟ้อปี 68 ไว้ 2% ตามข้อตกลงคลัง-ธปท.

2025-01-09     HaiPress

'จุลพันธ์' ชี้รักษากรอบเงินเฟ้อปี 68 ไว้ที่ค่ากลาง 2% ตามข้อตกลงคลัง-ธปท.

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรอบงบประมาณปี 2569 ที่ ครม.เห็นชอบเป็นไปตามที่ที่ประชุม 4 หน่วยงานเศรษฐกิจ ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นชอบ

ทั้งนี้ในกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2569 วงเงินรวม 3.78 ล้านล้านบาท มีการขาดดุลงบประมาณลดลง 5 พันล้านบาท กรอบงบประมาณรวมเพิ่มขึ้น 2.7 หมื่นล้านบาท และจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

สำหรับขั้นตอนกระบวนการที่จะตั้งงบประมาณต้องดูวินัยการคลัง ต้องดูสัดส่วนตามที่กฎหมาย พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังกำหนด กรอบการขาดดุลต่างๆ นั้นเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยขั้นตอนต่อไปก็ต้องมีการดูในเรื่องของงบประมาณที่เสนอเข้ามาและจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้หน่วยงานเศรษฐกิจต่างมองว่าระดับของงบประมาณนี้เหมาะสมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะต้องดูการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย สำนักงบประมาณต้องดูในเรื่องของการใช้จ่าย และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ต้องมีหน้าที่ไปดูเงินเฟ้อให้ได้ตามกรอบเป้าหมาย 1-3 % และให้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง รมว.คลังกับผู้ว่าการ ธปท.ที่จะทำให้เงินเฟ้อเข้าใกล้ 2% ตามที่ตกลงไว้ โดยเรื่องนี้ต้องให้เวลาที่ ธปท.จะทำให้เงินเฟ้อเข้ากรอบและค่ากลางที่ 2%  นอกจากนั้นในข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลังและ ธปท.ยังมีการกำหนดด้วยว่า ธปท.จะต้องดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับเหมาะสมที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันระหว่างคู่ค้าและคู่แข่ง

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา