12-25
ส่งออกปีนี้โต10ล้านล้าน-สูงสุดประวัติการณ์ ‘พิชัย’ จัดทัพบุกอเมริกาล็อบบี้ไม่ขึ้นภาษีไทย
2024-12-18 IDOPRESS
"พิชัย" จัดทัพบุกอเมริกา ล็อบบี้ไม่ให้ขึ้นภาษีนำเข้าไทย เคาะเป้าส่งออกปี 68 เติบโต 2-3% ห่วงบาทแข็งกระทบหนักต้องการ 36-37 บาท ส่วนปี 67 ส่งออกโต 5% มูลค่า 10 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พา่ณิชย์ และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทยว่า กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน ได้เห็นตรงกันว่า การส่งออกในปี 68 มีแนวโน้มเติบโตได้ โดยคาดจะโตได้ 2-3% คิดเป็นมูลค่า 305,315-308,307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 10.38-10.48 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 67 ที่คาดส่งออกได้ 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตได้ 5% หรือเป็นเงินบาท 10 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ไทยส่งออกมา
ส่วนแผนรับมือความเสี่ยงนโยบายทรัมป์ 2.0 กระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนทำงานเชิงรุกไว้แล้ว โดยหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดี กระทรวงพาณิชย์จะนำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปสหรัฐ ทันทีช่วงต้นเดือน ก.พ. 68 เพื่อไปหารือและเจรจาการค้า ไปอธิบายให้สหรัฐ เข้าใจว่า ที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐ มาจากอะไร ซึ่งเชื่อว่า ไทยจะไม่โดนปรับขึ้นภาษีนำเข้า เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างจีน และเวียดนาม ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ
“กระทรวงพาณิชย์ตั้งใจชี้แจง สาเหตุที่ไทยเกินดุลสหรัฐ มาจากนักลงทุนสหรัฐ เข้ามาลงทุนในไทยและส่งออกสินค้ากลับไป โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีบริษัทอเมริกา มาลงทุนในจำนวนมาก ขณะเดียวกันจะหารือด้วยว่า จะแก้ปัญหาดุลการค้าร่วมกันอย่างไร หรือสหรัฐต้องการให้ไทยนำเข้าอะไร และที่สำคัญหากสหรัฐปรับขึ้นภาษี ก็จะกระทบต่อนักลงทุนสหรัฐเองด้วย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าจากมาตรการที่สหรัฐออกมา จะเป็นโอกาสของประเทศไทย มากกว่าวิกฤติ”
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยที่น่ากังวล คือ ค่าเงินบาทที่ขณะนี้เริ่มกลับมาแข็งค่าอีกแล้ว ถึง 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้ง เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่ค่าเงินอ่อนค่าหมด ยกเว้นไทย จึงอยากเห็นค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกได้มาก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และข้าว ที่จำเป็นต้องใช้ค่าเงินบาทอ่อนค่าช่วยเพิ่มแต้มต่อในการแข่งขัน