11-23
นายกฯ เรียกผู้ว่าฯ ททท. หารือแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวปี 68
2024-09-19 HaiPress
นายกฯ เรียกผู้ว่าฯ ททท. หารือแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวปี 68 พร้อมเสนอแผนท่องเที่ยว 1-2 สัปดาห์นี้
น.ส.ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เปิดเผยว่าน.ส.แพทองธารชินวัตรนายกรัฐมนตรีได้เรียกมาสอบถามสถานการณ์ท่องเที่ยวพร้อมหารือมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี68และจะสรุปแผนกระตุ้นท่องเที่ยวปีหน้าให้นายกฯอีกครั้งภายใน1-2สัปดาห์นี้โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานรับทราบแผนงานนี้และติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวด้วยตนเอง
ทั้งนี้ททท.จะมีการจัดทำภาพรวมการท่องเที่ยวในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศการจัดอีเวนท์หรือกิจกรรมต่างๆรวมถึงการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวว่าสิ่งใดที่นักท่องเที่ยวมีความต้องการเพิ่มเติมเช่นการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพราะถือว่าเป็นธุรกิจของทุกชาติที่ต้องการเข้ามีระบบจ่ายเงินที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศต้นทางได้นอกเหนือจากวีซ่าฟรีที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
น.ส.ฐาปนีย์กล่าวว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีโดยจะต้องเป็นการกระตุ้นแบบลงทุกพื้นที่และมองว่าภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการท่องเที่ยวสามารถมีดัชนีชี้วัดไม่ว่าจะเป็นการจัดอันดับต่างๆที่ต่างชาติดำเนินการจัดอันดับเป็นดัชนีความนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกแต่ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและความมั่นใจในการเดินทางมาท่องเที่ยว
ขณะที่เป้าหมายท่องเที่ยวที่รัฐบาลเคยตั้งไว้ ทั้งรายได้ จำนวนนักท่องเที่ยว ต้องพยายามทำให้ได้ ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นก็ต้องลุ้นจำนวนตัวเลขอีกที ซึ่งในเดือนต.ค.นี้ จะมีสายการบินที่เป็นปฐมฤกษ์บินเข้ามายังไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการสนับสนุนทำให้นักท่องเที่ยวจากใหม่ๆ เดินทางเข้ามา โดยเรื่องนี้นายกฯให้ความสำคัญอย่างมากโดยจำนวนนักท่องเที่ยว น่าจะเพิ่มขึ้นได้ แต่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมีการรัดเข็มขัดมากขึ้นในหลายประเทศอย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยใกล้ 25 ล้านคนแล้ว ดังนั้นเหลือเวลาอีก3 เดือนครึ่งซึ่งอยู่ในช่วงไฮซีซั่น ก็อยากให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้า 30-35 ล้านคน โดยกลุ่มตลาดการท่องเที่ยวหลัก ที่มุ่งเน้นอยู่ คือตลาดจีน อินเดีย เกาหลี มาเลเซีย รัสเซีย ถือเป็นกลุ่มดาวฤกษ์เข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มตลาดดาวรุ่งหรือตลาด นักท่องเที่ยวใหม่ จำเป็นต้องขยายเพิ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มตลาด ซีไอเอส ประกอบด้วยคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น