11-23
จุลพันธ์ แจง “ปมผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ร่อนหนังสือค้าน”ย้ำเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตต่อ ชี้ได้คุ้มเสีย
2024-08-09 HaiPress
จุลพันธ์ ยันรับฟังความเห็นผู้ตรวจเงินแผ่นดิน แต่ย้ำเดินหน้าโครงการต่อ เชื่อได้คุ้มเสีย ย้ำเซเว่นฯ เข้าร่วมได้ไม่เอื้อรายใหญ่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งรายงานเสนอเรื่องเข้า ครม. โดยแนะให้รัฐบาล รับฟังความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.),สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์,และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในการทำโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม. อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับฟังความเห็นของหน่วยงานทุกครั้ง เพื่อพิจารณาดูว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ส่วนการปรับเปลี่ยนรายละเอียด ข้อจำกัดที่ผ่านมา ก็ได้รับเข้ามาทำ และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับข้อสังเกต
ส่วนความเห็นของสภาพัฒน์ที่มองว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นในการกระตุ้นการบริโภคนั้น มองว่าอาจจะเป็นมุมมองที่แตกต่าง เรามองว่ากลไกดิจิทัลวอลเล็ต เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่มิติเดียวที่เราทำ มีทั้งกลไกการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นอนาคต การพัฒนาฝีมือแรงงาน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเป็นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจระยะยาวด้วย
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงข้อกังวลว่าจะเป็นภาระทางการคลังในระยะยาวนั้น การดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังมาโดยตลอด และจะบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง ซึ่งปัจจุบันหนี้สาธารณะไทยอยู่ที่ 11.5 ล้านล้านบาท ถ้ามีการกู้ขาดดุลเพิ่มเติมสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อีก 5 แสนล้านบาท ก็จะเป็นการเติมหนี้เข้าไป ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าจะเข้าไปอยู่ในหนี้สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา หนี้สาธารณะเพิ่มจาก 5 ล้านล้านบาท เป็น 10 ล้านล้านบาท แต่ไม่มีกลไกในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเลย
ขณะที่กรณีมีข้อกังวลว่าการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นการเอื้อกลุ่มทุนนั้น ยืนยันว่า เรามีกลไกหลายอย่าง เช่น การบังคับให้ใช้จ่าย 2 รอบ คือ ให้ประชาชนใช้จ่ายผ่านร้านค้าขนาดเล็ก และร้านค้าขนาดเล็ก จะต้องไปใช้จ่ายกับร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นต้น สำหรับการเปิดให้ประชาชนสามารถซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อได้เป็นร้านแรกนั้น ยืนยันว่า เซเว่นอีเลฟเว่น บิ๊กซีมินิ ประชาชนยังสามารถซื้อได้อยู่ และร้านสะดวกซื้อไม่ได้มีเท่านั้น ปัจจุบันมีร้านสะดวกซื้อที่อยู่ในชนบทจำนวนมาก ไม่ใช่แค่เซเว่นอีเลฟเว่น