12-25
ชวนเปิดประสบการณ์ เที่ยวรถไฟไทย 6 เส้นทาง เดือนกรกฎาคม 2567
2024-07-01 HaiPress
กระทรวงการท่องเที่ยวฯ-ททท. ชวนเปิดประสบการณ์เที่ยวรถไฟไทยนำร่อง 6 เส้นทางการท่องเที่ยว รับเดือนมหามงคล กรกฎาคม 2567
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้ศักยภาพทางด้านระบบขนส่งสาธารณะ(Logistics)ของประเทศเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัดฐานจัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟ“สุขทันทีที่เที่ยวกับรถไฟไทย เดินทางครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม”
นำร่องกิจกรรมในช่วงเดือนกรกฎาคม2567ด้วยการเดินทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออกด้วยรถไฟขบวนKIHA 183ทุกสัปดาห์ จำนวน 4 เส้นทางพร้อมแพ็กเกจท่องเที่ยว2วัน1คืน ราคา3,999บาทต่อท่าน เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักตลอดช่วงGreen Seasonประกอบกับช่วงเดือนมหามงคลเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย
สำหรับ 4 เส้นทางท่องเที่ยว ได้แก่
เส้นทางที่ 1กรุงเทพฯ-ราชบุรีวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2567
เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์วันที่ 13–14 กรกฎาคม 2567
เส้นทางที่ 3 กรุงเทพฯ-สุพรรณบุรีวันที่ 20–21 กรกฎาคม 2567
เส้นทางที่ 4 กรุงเทพฯ-ปราจีนบุรีวันที่ 27–28 กรกฎาคม 2567
นอกจากนี้ ททท. ยังได้เพิ่มแรงส่งอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม กับกิจกรรม“สิงหาแม่พาเที่ยว”นำเสนอ 2 เส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟ รูปแบบท่องเที่ยวOne Day Tripได้แก่
เส้นทางที่ 1 แม่พาลูกเที่ยว ชวนนั่งรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา วันที่ 12 สิงหาคม 2567
เส้นทางที่ 2 แม่ชวนลูกเที่ยว Royal Blossom รถไฟสายแห่งความสุขกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี (ภาคกลาง)วันที่ 17 สิงหาคม 2567
นอกจากนี้ ทั้ง 6 เส้นทางนั้น ททท. ยังมุ่งออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวที่สะท้อนแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเส้นทางท่องเที่ยวที่นำเสนออัตลักษณ์ความเป็นไทย5สิ่งต้องห้ามพลาด (5Must Do)ประกอบด้วยMust Eat :อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่นMust See :ละลานตาวัฒนธรรมMust Seek :แสวงหาunseenถิ่นน่าเที่ยวMust buy :หัตถกรรมล้ำค่าน่าซื้อฝากMust beat :สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ
รวมทั้งเพิ่มอรรถรสระหว่างการเดินทางโดยมัคคุเทศก์มืออาชีพบรรยายความรู้ และข้อมูลต่าง ๆ และเพิ่มความพิเศษให้แก่ช่วงเวลาแห่งความสุข ระหว่างการเดินทางในเส้นทางขบวนรถไฟ KIHA 183 ตลอดเดือนกรกฎาคม 2567 ด้วย อาทิ เส้นทางราชบุรี พบกับกิจกรรม Fashion Show ผ้าขาวม้าบนรถไฟ,เส้นทางสุพรรณบุรี พบกับการแสดงเพลงฉ่อยบนขบวนรถไฟ,เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ พบกับการบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ด้วย Saxophone และเส้นทางปราจีนบุรี พบกับเคล็ดลับการสักการะท้าวเวสสุวัณ จากซินแสเป็นหนึ่ง รวมทั้งยังพาแวะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวMust See – Must Seek
และทำกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอาทิ เส้นทางราชบุรี:ชมการแสดงหนังใหญ่ ณ วัดขนอนหนังใหญ่และตักบาตรพระล่องแพ ตลาดโอ๊ะป่อย,เส้นทางประจวบคีรีขันธ์:ศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าโกงกาง ทุ่งโปรงทอง และร่วมปลูกต้นจิกที่วนอุทยานปราณบุรีเพื่อเพิ่มพื้นทีสีเขียวริมชายหาด,เส้นทางสุพรรณบุรี:สัมผัสอารยธรรมทวารวดี สักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)
เส้นทางปราจีนบุรี:กราบสักการะพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา รัชกาลที่ 10,เส้นทางฉะเชิงเทรา:ย้อนกลิ่นอายวันวาน นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ล่องเรือชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำบางปะกง และเส้นทางกาญจนบุรี:สร้างประสบการณ์สุดคลาสสิค ตามรอยประวัติศาสตร์ชมสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้ำกระแซ สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิม อวโลกิเตศวรพันมือองค์ใหญ่แกะสลักไม้ ด้วยรถไฟขบวนRoyal Blossomเป็นต้น
ทั้งนี้ ททท. มั่นใจว่าการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทบุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถไฟดังกล่าว จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วงGreen Seasonต่อเนื่องตลอดทั้งปีและจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่น ทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวบรรลุเป้าหมาย ปี2567สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว3.5ล้านล้านบาท
ซึ่งในเดือนมกราคม-เมษายน 2567ที่ผ่านมามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนในประเทศแล้วกว่า120ล้านคน-ครั้งและเกิดเป็นรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวประมาณ880,346ล้านบาทตลอดจนกิจกรรมนี้จะนำไปสู่การออกแบบสร้างสรรค์และนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวทางรถไฟในภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
ผู้ที่สนใจจองแพ็กเกจท่องเที่ยวเส้นทางโดยสารรถไฟ ทั้ง 6 เส้นทาง ได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือระบบ
D-ticketของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690