11-27
UNISOC: MWC2022 ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อโลกปัจจุบันไปสู่ยังอนาคต
2022-03-07 Writer.Dek-d
MWC2022 หนึ่งในงานสำคัญของขอบเขตการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะจัดขึ้นที่กรุงบาร์เซโลนา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จนถึง 3 มีนาคม ภายใต้หัวข้อ “ปลดปล่อยการเชื่อมต่อ” MWC2022 มุ่งเน้นไปที่หลายแง่มุม เช่น 5G, ระบบปฏิบัติการคลาวด์, AI และ IoE (Internet-of-Energy), การแสดงความสำเร็จล่าสุดในอุตสาหกรรมการสื่อสารเคลื่อนที่ รวมทั้งการหารือถึงเส้นทางการพัฒนาทางเทคนิคในอนาคต
เป้าหมายพื้นฐานของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคือการรับใช้มนุษยชาติและทำให้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เครื่องบิน, รถยนต์, วิธีขนส่งอื่นๆที่จะช่วยแก้ปัญหาการเดินทางระยะไกล, และการพัฒนาด้านการแพทย์ที่ช่วยให้เราต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ในขณะที่การพัฒนาเชิงอุตสาหกรรมการสื่อสารช่วยให้เรามีอำนาจเพื่อบรรลุการส่งผ่านข้อมูลและเชื่อมต่อระหว่างคนและโลก
ในฐานะผู้ผลิตชิปสำหรับการสื่อสารชั้นนำของโลก ค่านิยมสำคัญที่ UNISOC ยึดมั่นมากที่สุดคือทำให้ทุกการเชื่อมต่อเป็นไปได้ UNISOC มุ่งมั่นที่จะให้บริการอัจฉริยะต่อทั้งบุคคลและสังคม เราเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ควรเป็นประโยชน์ต่อคนในวงกว้างและจำนวนมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนระดับรากหญ้าของสังคม และนี่คือแรงบันดาลใจของเราที่จะช่วยให้พวกเขาปลดล็อคและเข้าถึงโลกดิจิตอล
- ช่วยให้ผู้คนก้าวเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น
จากรายงานที่เผยแพร่โดย WeAreSocial และ Hootsuite ณ เดือนมกราคม ปี 2022 จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 5.31 พันล้านคน ซึ่งคิดเป็น 67.1% ของประชากรทั้งหมด นั่นหมายความว่า ในปัจจุบัน ยังมีประชากรอีกจำนวน 2.26 พันล้านคนทั่วโลก ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ
UNISOC ให้สัญญาอยู่เสมอในการช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเครือข่ายอัจฉริยะและเชื่อมต่อกับโลก จนถึงปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ UNISOC ซึ่งทำการตลาดใน 128 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก กำลังช่วยคนกว่า 400 ล้านคนให้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตบนมือถือผ่านสมาร์ทโฟน ทั่วทั้งโลกประมาณการว่าจะมีชิปของ UNISOC หนึ่งชิปในโทรศัพท์มือถือทุกๆสี่เครื่อง และมีชิปของ UNISOC หนึ่งชิปในสมาร์ทโฟนทุกๆ สิบเครื่อง
ในแอฟริกา UNISOC ได้ทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ใช้งานชาวแอฟริกันโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะช่วยให้แอฟริกาก้าวไปสู่ยุคดิจิตอล; ในอินเดีย UNISOC ช่วยให้ผู้ใช้งานชาวอินเดียมากกว่า 25 ล้านคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตบนมือถือ; ในประเทศไทย UNISOC และแบรนด์ท้องถิ่นของไทยร่วมกันพัฒนาโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชันการชำระเงิน เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคหลายล้านคนได้รับความสะดวกสบายจากการบริการ; ในอินโดนีเซีย UNISOC ได้ช่วยให้นักเรียนกว่า 300,000 คนเข้าถึงการศึกษาทางไกล ผ่านการเรียนรู้ออนไลน์บนอุปกรณ์แท็บเล็ต
ในประเทศจีน ตามข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีประชากรจำนวน 264 ล้านคน ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือนับเป็น 18.7% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ และประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปจำนวน 190 ล้านคน นับเป็น 13.5% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้ผู้คนมีชีวิตดิจิตอลที่สมบูรณ์และเปี่ยมไปด้วยสีสัน ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย อาทิเช่น ความบันเทิง, การเดินทาง, การชำระเงินและการจับจ่ายใช้สอย ที่สามารถทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกได้สร้างความลำบากแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งโดยทั่วไปอาจไม่สามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อดูแลความต้องการพื้นฐาน เช่น เสื้อผ้า, อาหาร, ด้านที่อยู่อาศัยและการคมนาคม ในบริบทดังกล่าว วิธีการที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงโลกของอินเตอร์เน็ตบนมือถือได้กลายเป็นปัญหาที่ UNISOC ให้ความสำคัญมาโดยตลอด
UNISOC จับมือกับพันธมิตรเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายหลากหลายสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ, สมาร์ทโฟน, และนาฬิกาอัจฉริยะ ด้วยความสามารถอันแข็งแกร่งของเทคโนโลยีชิป UNISOC ยกเลิกการออกแบบจอสัมผัสที่ซับซ้อน แต่หันมาใช้งานปุ่มกดแบบคลาสสิคที่มีแบบอักษรขนาดใหญ่, ระดับเสียงที่ดังและจอขนาดกว้าง เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้งานของผู้สูงอายุอย่างเต็มที่; รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เช่น การกดปุ่มเดียวเพื่อโทรออก, ระบบระบุตำแหน่งอย่างแม่นยำ, การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือด้วยปุ่มเดียว และการตรวจสอบเชิงสุขภาพอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่ถูกกีดกันออกจากโลกดิจิตอลอีกต่อไป
- ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการเชื่อมต่อ
อีกมุมหนึ่ง การพัฒนาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ในทางกลับกัน มันก็อาจสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นเราจึงต้องคิดค้นวิธีรับมือและหาสมดุลระหว่างการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ทุกวันนี้ การอนุรักษ์พลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อม, เศรษฐกิจที่ปล่อยคาร์บอนต่ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ได้กลายมาเป็นหัวข้อถกเถียงโดยพื้นฐานของคนทั้งโลก
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว UNISOC ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการคมนาคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ระบบการผลิตอัจฉริยะ, และอุตสาหกรรมอื่นๆที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
จากข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในปี 2019 การปล่อยก๊าซคาร์บอนของจีนนับเป็น 29% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดของโลก ซึ่งรวมการปล่อยก๊าซคาร์บอนจำนวน 9.8 พันล้านตันจากกิจกรรมด้านพลังงาน หรือคิดเป็น 87% ของผลผลิตทางสังคมทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปล่อยก๊าซคาร์บอนของจีนจากภาคการขนส่งนับเป็น 15% ของการปล่อยคาร์บอนปลายทางในประเทศ โดยที่มีอัตราเพิ่มต่อปีมากกว่า 5% ในช่วงเก้าปีที่ผ่านมา การคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่เพียงช่วยประหยัดพลังงาน, ปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน, และช่วยลดมลพิษ แต่ยังเป็นผลดีในด้านสุขภาพอีกด้วย การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงมีความสำคัญอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย
จำนวนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อในประเทศจีนมีมากกว่า 300 ล้านคัน โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 30 ล้านคันต่อปี แต่อย่างไรก็ตามการชาร์จไฟได้กลายเป็นอุปสรรคคอขวดที่จำกัดการพัฒนาของตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้านี้ ณ ปัจจุบันสถานีชาร์จไฟสาธารณะมีสามประเภทหลักๆ ได้แก่ แท่นชาร์จ, ตู้ชาร์จ, และตู้สำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยสองประเภทแรกจะกินเวลาและเนื้อที่แต่กลับมีอัตราการใช้ประโยชน์ต่ำ ในขณะที่ตู้สำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่ จะตรงกับความต้องการมากกว่า ซึ่งไม่เพียงแต่ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบาย
สำหรับตลาดของตู้เปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยายนต์ไฟฟ้าในจีน UNISOC ได้ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 60% อันเป็นผลมาจาก ชิป UNISOC 4G Cat.1 ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบตำแหน่งและรายละเอียดของสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ใช้ร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย อันเป็นการส่งเสริมการพัฒนาในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ในอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ใช้ร่วมกันมีความสำคัญมากต่อการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง UNISOC ได้ทำการสำรวจและปรับใช้ในเชิงลึก โดยผู้ให้บริการจักรยานยนต์ร่วมเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Hellobike, Meituan, Didi และ Didi Bike (ส้ม เขียว) ได้เริ่มใช้งานชิปของ UNISOC ซึ่งจะช่วยลดเวลาสำหรับการล็อคและปลดล็อคลงกว่า 30% โดยเฉลี่ย และยังมอบประสบการณ์ขับขี่อัจฉริยะให้แก่ผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งจะช่วยเพิ่มการความต้องการของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในปัจจุบัน มีรถจักรยานยนต์ Hellobike ที่ติดตั้งชิป UNISOC มากกว่า 2.5 ล้านคัน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การพัฒนาแบบทวีคูณของตลาดรถยนต์พลังงานทดแทนได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การจัดการระบบอัจฉริยะและการใช้งานของแท่นชาร์จบรรลุผลสูงสุด ความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายได้กลายเป็นสิ่งจำเป็น แท่นชาร์จอัจฉริยะที่ติดตั้งชิป IoT UNISOC Cat.1 ช่วยให้การรายงานเป็นไปแบบเรียลไทม์ และสามารถจัดการร่วมกันสำหรับสถานะการใช้งานของแท่นชาร์จ ในปัจจุบัน ลูกค้าหลายท่านรวมถึง China Tower, SAIC Roewe และ Star Charging ได้มีการใช้งานแท่นชาร์จอัจฉริยะที่ติดตั้งด้วยชิปของ UNISOC
นอกจากการคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม UNISOC ยังได้ร่วมมือกับ JD Logistics เพื่อสร้าง “คลังสินค้า 5G แบบไร้คน” ด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะที่ติดตั้งด้วยชิป UNISOC 5G ยกตัวอย่างเช่น ประตูทางเข้าออกและรถเข็นโลจิสติกส์ AGV ซึ่งถูกนำมาใช้ในการจัดการแบบไร้คนและดำเนินงานในกระบวนการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นส่วนคลังสินค้า, การจัดเก็บ, การจัดการและการคัดแยกสินค้า เมื่อเทียบกับวิธีการทั่วไป วิธีนี้จะมีประสิทธิภาพในการคัดแยกสินค้าสูงกว่าแปดเท่า และมีความแม่นยำสูงถึง 99.99% ซึ่งมากกว่าประสิทธิภาพของแรงงานคนสามเท่า แต่สามารถลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้มากถึง 60%
ปลดปล่อยทุกการเชื่อมต่อ! UNISOC ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อโลกปัจจุบันไปสู่ยังอนาคต
บริษัท: UNISOC Technologies Co., Ltd
เว็บไซต์: www.unisoc.com
ติดต่อ: Crystal Tang 唐玥颖, PR Team
อี-เมล: yueying.tang@unisoc.com